top of page
  • White Facebook Icon
  • White Instagram Icon

ทักษะอาชีพ

หน่วยการเรียนรู้ที่  2  เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

การซ่อมแซมเสื้อผ้า

1.การเนา

การเนาเป็นวิธีการเบื้องต้นของการเย็บผ้าก่อนที่จะสอย
หรือเย็บตะเข็บอื่น ๆ เพื่อยึดผ้าให้ติดกันชั่วคราว และเป็นเครื่องหมาย
สำหรับการเย็บในขั้นตอนต่อไป ทำให้เย็บได้ง่าย เมื่อเย็บผ้าเสร็จแล้ว
ก็จะเลาะด้ายที่เนาออก
วิธีการเนาให้แทงเข็มขั้นลงธรรมดาตามแนวผ้าที่ต้องการเย็บ
ซึ่งมี 2 ลักษณะ คือ
1.1 ตะเข็บเนาเท่า ลักษณะฝีเข็มจะเท่ากันตลอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยแต่ละฝีเข็มจะถี่และห่างสลับกันประมาณ ¼ นิ้ว
หรือ ½ นิ้ว
1.2ตะเข็บเนาไม่เท่า ลักษณะฝีเข็มจะถี่และห่างสลับกัน
โดยฝีเข็มห่างอยู่ด้านหน้าและมีความยาวประมาณ ¼ นิ้ว
ฝีเข็มถี่อยู่ด้านหลัง ซึ่งมีความยาวประมาณ ½ นิ้ว
ฝีเข็มห่างช่วยให้เห็นแนวยาวที่ง่ายต่อการเย็บ
ส่วนฝีเข็มถี่จะช่วยตรึงผ้าให้แน่น

2.การด้น
การด้นเป็นตะเข็บที่คงทนมีระยะฝีเข็มถี่สามารถใช้แทนตะเข็บที่เย็บได้
มี 2 แบบ คือ
ด้นตะลุย เรียก อีกอย่างหนึ่งว่า ด้นปล่อย มีลักษณะฝีเข็มเหมือน
กับตะเข็บเนาเท่าแต่มีระยะถี่กว่าประมาณ 5 ฝีเข็มต่อ 1 นิ้ว
สำหรับ ผ้าบางหรือผ้าที่ค่อนข้างนิ่มสามารถแทงเข็มขึ้นลง 3 – 4 ครั้ง
ติดต่อกันถึงค่อยดึงเข็มขึ้นครั้งหนึ่ง เหมาะสำหรับการเย็บตกแต่ง
หรือทำจีบรูด
การด้นอีกแบบหนึ่งเรียกว่า ด้นถอยหลัง ลักษณะฝีเข็มเหมือน
ตะเข็บที่เย็บด้วยจักร มักจะใช้เย็บตะเข็บข้างเนื่องจากมีความทนทาน
ในการเย็บ เมื่อแทงเข็มลงบนผ้าแล้วให้เข็มแทงขึ้นด้านตรงข้าม
กับมือที่จับเข็ม ดึงด้ายให้ตึงแล้วแทงเข็มย้อนกลับมาที่จุดกึ่งกลาง
ระหว่างฝีเข็มเดิม หรือตรงรอยฝีเข็มเดิม

3.การสอย
การสอยจะทำให้มองไม่เห็นด้ายปรากฏภายนอกเด่นชัดจึงมักใช้
ในการเย็บปกเสื้อ สาบเสื้อ ขอบกระโปรงและกางเกง
หรือสอยริมผ้าเพื่อกันลุ่ย เช่น ชายกระโปรง ชายเสื้อ ขากางเกง เป็นต้น
การสอยมีทั้ง สอยซ่อนด้าย ซึ่งนิยมใช้เย็บผ้าพับริม
เช่น ชายเสื้อ ชายกระโปรง ขากางเกง ก่อนจึงลงมือเย็บ
จะต้องพับริมผ้าให้เรียบแล้วเนาตรึงไว้ อาจนำไปรีดทับ
เพื่อให้ผ้าคงรูปยิ่งขึ้น จากนั้นจึงลงมือเย็บ โดยแทงเข็มสอดเข้าไป
ในรอยพับของผ้าประมาณ ¼ หรือ 1/8 นิ้ว แล้วแทงเข็มออกมา
จากรอยพับ ให้ปลายเข็มเกี่ยวที่ผ้าด้านนอกประมาณ 2 เส้นใยของผ้า
ดึงด้ายให้ตึงพอประมาณ แล้วแทงสอดเข้าไปให้รอยพับของผ้าใหม่
ทำเช่นนี้จนสุดริมผ้า

ข้อควรระวังคือ ในขณะที่เย็บไม่ควรดึงด้ายตึงจนเกินไป
เพราะจะทำให้ขอบผ้าย่น และหมั่นดึงขอบผ้าที่เย็บแล้วให้ตึงอยู่เสมอ

3.1 สอยพันริม ให้สอยเพื่อยึดขอบผ้าที่พับให้ติดกับผืนผ้าด้านหลัง
เป็นการสอยที่ไม่ซ่อน
ด้ายด้านหลัง ในการเย็บเมื่อพับริมผ้าเรียบร้อยแล้ว
ใช้เข็มแทงขึ้นเหนือขอบผ้าเล็กน้อย ดึงด้ายให้ตึงแล้ว
แทงเข็มลงใต้ขอบผ้าประมาณ 2 เส้นด้าย ให้อยู่ในแนวเฉียงเล็กน้อย
ต่อด้วยแทงเข็มเฉียงขึ้นที่เหนือขอบผ้าให้เท่ากับรอยเดิม
เย็บเช่นนี้ต่อไปจนเสร็จ

3.2 สอยสลับฟันปลา นิยมใช้เย็บตะเข็บที่ขอบแขนเสื้อ
เป็นการสอยอย่างหลวม ๆ แต่สามารถยึดผ้าได้ดี
ด้านนอกจะเห็นเป็นจุดด้ายเล็ก ๆ เรียงกันส่วนด้านในจะเป็นเส้นด้าย
เย็บไขว้กัน ด้านล่างของรอยพับจะเย็บไขว้แบบซ้ายทับขวา
ส่วนด้านที่อยู่บนขอบผ้าจะไขว้แบบขวาทับซ้าย

วิธีการซ่อมแซมเสื้อผ้า

ในการสวมใส่เสื้อผ้า บ่อยครั้งที่เราสวมใส่เสื้อผ้าแล้วเสื้อผ้าที่สวมใส่เกิดการชำรุดมีรอยขาด อันเนื่องจากการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน เราจึงต้องรู้จักการซ่อมแซมเสื้อผ้า ซึ่งการซ่อมแซมเสื้อผ้ามีหลายวิธี เช่น การชุน การปะ และหากเราต้องการซ่อมแซมเสื้อผ้าให้มีประสิทธิภาพเราจะต้องมีการวางแผนการซ่อมแซม ดังนี้
ตัวอย่าง การปะผ้า

bottom of page