top of page
  • White Facebook Icon
  • White Instagram Icon

นักทดลองวิทย์

         การหายใจ (respiration) เป็นการนำอากาศเข้าและออกจากร่างกาย ทำให้แก๊สออกซิเจนทำปฏิกิริยากับสารอาหาร ได้พลังงาน น้ำ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

 

อวัยวะในระบบทางเดินหายใจ

 

1.จมูก (nose) มีหน้าที่รับกลิ่น และเป็นทางผ่านเข้าออกของอากาศ

 

2. ปาก (mouth) ช่องทางที่อากาศผ่านเข้าสู่ปอดได้กรณีเหนื่อยหรือทางจมูกตีบตัน

 

3. โพรงจมูก (nosal cavity) อยู่ถัดจากรูจมูก ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของอากาศ และดักฝุ่นละอองไม่ให้เข้าจมุก

 

4. คอหอย (phaynx) ส่วนหนึ่งของคอและช่องคอ

 

5. กล่องเสียง (larynx) อวัยวะที่อยู่ด้านหน้าของลำคอ ทำให้เกิดเสียง

 

6. หลอดลม (Trachea) หลอดยาวที่มีกระดูกอ่อนรูปเกือกม้าเรียงติดกัน ทำให้หลอดลมไม่แฟบ อากาศจึงผ่านเข้าออกได้

 

7. ปอด (lung) อวัยวะที่ใช้แลกเปลี่ยนแก๊ส มี 2 ข้างในทรวงอก ประกอบด้วยขั้วปอด (Bronchus) ที่แตกแขนงออก เรียกว่า แขนงขั้วปอด (Bronchiole) ที่ปลายของแขนงขั้วปอดมีถุงลมเล็กๆใช้แลกเปลี่ยนแก๊ส เรียกว่า ถุงลมปอด (alveolu)

 

กลไกของระบบทางเดินหายใจ

 

            การหายใจเข้า กะบังลมเคลื่อนต่ำลง กระดูกซี่โครงยกตัว ทำให้ปริมาตรของช่องอกเพิ่มขึ้น ความดันอากาศในช่องอกและปอดลดต่ำลง อากาศเข้าสู่ปอด

 

            การหายใจออก กะบังลมยกขึ้น กระดูกซี่โครงเลื่อนต่ำลง ทำให้ปริมาตรของช่องอกน้อยลง ช่องอกและปอดมีความดันอากาศสูงขึ้น อากาศออกจากปอด

 

            คนปกติมีอัตราการหายใจ 14-18 ครั้งต่อนาที เรากลั้นหายใจได้ไม่เกิน 1 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด เช่น ขณะออกกำลังกาย แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดจะสูง ทำให้หายใจเร็ว เพื่อให้รับแก๊สออกซิเจนได้มากขึ้น แต่เมื่อหลับ ร่างกายทำงานน้อยลง ปริมาณแก๊สต่ำ การหายใจก็จะช้าลง

 

การแลกเปลี่ยนแก๊ส

 

            แก๊สออกซิเจนจากถุงลมปอดจะแพร่เข้าสู่หลอดเลือดฝอยรอบๆถุงลมปอด และรวมตัวกับฮีโมโกลบินที่เม็ดเลือดแดงกลายเป็นออกซีฮีโมโกลบิน ทำให้เลือดมีสีแดง จากนั้นหัวใจจะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย แก๊สออกซิเจนจะทำปฏิกิริยากับสารอาหาร ได้พลังงาน น้ำ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ หลังจากนั้นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จะแพร่เข้าสู่หลอดเลือดฝอย ไปยังปอด และหายใจออก

 

อาการที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ

 

1. การจาม อาการที่หายใจเข้าลึกและหายใจออกทันที เกิดจากร่างกายพยายามขับสิ่งแปลกปลอมออกนอกร่างกาย

 

2. การหาว อาการที่หายใจเข้ายาวและลึก เกิดจากร่างกายมีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สะสมอยู่ในเลือดมากเกินไป จึงต้องขับออก เพื่อรับแก๊สออกซิเจนเข้าปอดแทน

 

3. การสะอึก อาการที่เกิดจากกะบังลมหดตัวเป็นจังหวะ ขณะหดตัวอากาศจะถูกดันผ่านลงสู่ปอดทันที ทำให้เส้นเสียงสั่นเกิดเสียง

 

4. การไอ อาการที่หายใจเข้ายาวและออกอย่างรุนแรง เพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในกล่องเสียงและหลอดลม

 

สรุปสาระสำคัญ

            เมื่อหายใจเข้า แก๊สออกซิเจนจะผ่านอวัยวะต่างๆเข้าสู่ปอด เกิดการแลกเปลี่ยนแก๊ส ส่วนแก๊สที่ร่างกายไม่ต้องการก็จะถูกขับออก กลายเป็นลมหายใจออก

แก๊สที่ร่างกายต้องการคือแก๊สออกซิเจน

bottom of page